วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2551

ทำไมในต่างประเทศถึงเรียกตำรวจว่า COP

ทุกคนคงเคยได้ยิน ตำรวจเหล็กชื่อดัง โรโบคอบ (ROBOCOP) และทุกคน คงเดาออกว่า ROBO มาจาก ROBOT ที่แปลว่าหุ่นยนต์ แต่คำว่า COP นั้น ทราบหรือเปล่าครับว่า เขาใช้เป็นกึ่งๆ แสลงเรียกตำรวจของฝรั่ง เพราะฉะนั้นโรโบคอบ ก็แปลตรงตัวง่ายๆ ว่าตำรวจหุ่นยนต์นั้นเอง แต่ทราบกันอีกหรือเปล่าครับ คำว่า COP มีที่มาอย่างไร
คำว่า COP ย่อมาจาก Constable of Patrol ในภาษาอังกฤษ แปลได้ว่า ตำรวจลาดตระเวน ซึ่งในสมัยก่อน ในประเทศอังกฤษ ใช้คำว่า COP ในการเรียกตำรวจเฉพาะหน้าที่หนึ่งของเขานั่นเอง ก่อนที่คำนี้จะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ทำให้ ตำรวจทุกๆหน้าที่ ถูกเรียกย่อๆว่า COP ในที่สุด

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2551

ขอตอบควิซอาจารย์ครับ

เรียนท่านอาจารย์ เพื่อท่านจะแวะผ่านมาชม เนื่องจาก ช่วงอาทิตย์ที่แล้วผมต้องออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่และพอกลับมายังเป็นไข้ซ้ำอีกเลยยังไม่ได้เข้าไปดูที่บลอคของอาจารย์ แต่ก็ได้พบว่าสายไปแล้ว แต่ก็ยังอยากที่จะตอบ ส่วนท่านอาจารย์จะให้คะแนนรึไม่ก็ไม่เป็นไรครับ

ในกรณีที่บริษัทของข้าพเจ้ามีสาขาอยู่ทั่วทุกภาค มีพนักงานมากกว่า 10,000 คน ข้าพเจ้าสามารถนำระบบ HRISมาประยุกต์ใช้ในบริษัทของข้าพเจ้าโดยนำระบบสารสนเทศทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Information System) มาเป็นเครื่องมือในการนำข้อมูลพนักงานมาวิเคราะห์ วางแผนและการตัดสินใจ ในเรื่องต่างๆโดยนำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องต่างๆดังนี้
1. ระบบการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน
นำระบบ HRISมาใช้การจัดเก็บข้อมูลผู้สมัคร ทำให้ทราบสถานภาพและคุณสมบัติของผู้สมัคร ใช้ในการบันทึกข้อมูลการจ้างงาน เก็บประวัติส่วนตัวที่จะใช้ในการคัดเลือกต่อไป เช่น ชื่อ ที่อยู่ สถานภาพ ฯลฯ เนื่องจากผู้สมัครแต่ละคนยังไม่ผ่านการคัคเลือกเข้าเป็นพนักงานของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านกระบวนการคัดเลือกแล้ว เช่น การทดสอบหรือการสัมภาษณ์ ระบบจะสามารถโอนข้อมูลพนักงานนั้นๆ เข้าสู่ระบบกลางได้โดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องทำการบันทึกข้อมูลใหม่

2. ระบบทะเบียนประวัติ
นำระบบ HRISมามาช่วยในการจัดเก็บและบริหารข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับประวัติของพนักงาน, ตำแหน่งงาน, หน่วยงานสังกัด ฯลฯ ในทุกสาขาของบริษัท โดยระบบHRISนี้ ยังช่วยในการเชื่อมโยงการทำงานของระบบทะเบียนประวัติและระบบอื่นๆ เข้าด้วยกัน เนื่องจากเป็นการแบ่งการใช้ฐานข้อมูล เช่น ใช้ร่วมกับระบบการจ่ายค่าจ้างและเงินเดือนเพื่อจ่ายค่าตอบแทน, ใช้ร่วมกับระบบการประเมินผลงานและการเลื่อนขั้นตำแหน่งเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง
3. ระบบบันทึกเวลาทำงาน
นำระบบ HRISมามาช่วยในการบันทึกข้อมูลเวลาการทำงานทำให้- สามารถกำหนดแผนการทำงานของพนักงานได้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นพนักงานรายเดือน รายวัน หรือพนักงานที่ต้องมีการเข้ากะที่แตกต่างกัน ในแต่ละสาขา- สามารถตรวจสอบเวลาการทำงานที่ข้ามวันได้ เช่น การเข้าทำงานกะในคืนวันหนึ่ง และไปเลิกงานในตอนเช้าของอีกวันหนึ่ง- รายงานข้อผิดพลาดต่างๆได้อย่างหลากหลาย เช่น พนักงานไม่รูดบัตรเข้าหรือออก รายงานมาสาย หรือเลิกงานก่อนเวลา- สามารถแสดงสถิติการหยุดงาน การป่วย ลา ขาด สาย ของพนักงานแต่ละคน หรือเป็นหน่วยงาน ในแต่ละสาขา และในแต่ละช่วงเวลา
4. ระบบการจ่ายค่าจ้างและเงินเดือน
นำระบบ HRISมามาช่วยในการจัดการรายได้ทั้งที่มีลักษณะคงที่และไม่คงที่ เช่น เงินประจำตำแหน่ง เงินค่าพาหนะที่จ่ายประจำ หรือค่าตอบแทนที่มีลักษณะคงที่ตลอดปี
การจัดการของระบบHRISในลักษณะของข้อมูลที่มีลักษณะคงที่ เช่นข้อมูลหลักเกณฑ์ในการคำนวณการจ่ายเงินเดือน ได้แก่ จำนวนวันต่อเดือนที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณ โครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและค่าลดหย่อน โครงสร้างอัตราเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อัตราเงินประกันสังคม หลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสจ่ายเป็นจำนวนเท่าของเงินเดือนหรือไม่อย่างไร หรือเป็นการจ่ายในรูปเงินสดเมื่อถึงวันจ่ายโบนัส (Cash Basis) หรือเป็นการแบ่งจ่ายตามสัดส่วน ตามเวลาซึ่งได้คำนวณและกันเงินไว้ล่วงหน้า (Accrual Basis) อย่างไรก็ดีการจ่ายเงินจะมีความสัมพันธ์กับระบบบัญชีของบริษัท การจัดการของระบบHRISในลักษณะของข้อมูลที่มีลักษณะไม่คงที่ เช่น การปรับเงินเดือน การตกเบิกเงินเดือน (Retroactive Adjustment) ค่าพาหนะที่ไม่ได้จ่ายประจำ ค่าเบี้ยเลี้ยงเงิน (เดือน) เบิกย้อนหลัง เบิกล่วงหน้า ค่ากะ ค่าปฏิบัติงานล่วงเวลา ค่าพาหนะ ค่าคอมมิชชัน เงินรางวัลพิเศษ รายได้อื่นๆ
5. ระบบการประเมินผลงานและการเลื่อนขั้นตำแหน่ง
นำระบบ HRISมามาช่วยในการประเมินผลงานตามกลุ่มของพนักงานทุก ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องหัวข้อที่พึงประเมิน เงื่อนไข และการให้คะแนน หลังจากที่ทำการประเมินจนได้ผลคะแนนออกมาแล้ว ก็จะมีรูปแบบจำลองวิธีการปรับเงินเดือน หรือการจ่ายเงินโบนัส เพื่อควบคุมให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนด หรือนำผลที่ได้จากแบบจำลองต่างๆ เหล่านั้นมาเปรียบเทียบกันก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับเงินเดือนหรือจ่ายโบนัส นอกจากนี้ ยังจะต้องมีการเก็บบันทึกประวัติการประเมินผลงาน, ประวัติการเลื่อนตำแหน่ง, การทำความดีหรือถูกลงโทษ, ประวัติการปรับเงินเดือน หรือการจ่ายโบนัสไว้ทุกครั้งโดยอัตโนมัติ เพื่อสามารถเรียกดูประวัติการประเมินผลย้อนหลังได้เมื่อต้องการ
6. ระบบการพัฒนาและฝึกอบรม
มีการนำระบบ HRISมามาช่วยในด้านต่างๆดังต่อไปนี้
- จัดทำแผนการฝึกอบรมของพนักงานแต่ละคน หรือแต่ละตำแหน่งงาน พร้อมทั้งประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้สามารถจัดเตรียมงบประมาณได้ เก็บประวัติการฝึกอบรมของบุคลากรแต่ละคน เพื่อใช้ตรวจสอบว่า ได้ผ่านการฝึกอบรมในเรื่องใดมาบ้างแล้ว และยังมีหลักสูตรใดที่ยังไม่ได้รับการฝึกอบรมบันทึกผลการประเมินการฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตร ทั้งในเรื่องวิทยากร, ผลที่ได้รับ, เนื้อหา, ค่าใช้จ่าย ฯลฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์สำหรับการวางแผนฝึกอบรมในครั้งต่อๆไป รายงานสรุปค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม ตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น แยกเป็นแต่ละหน่วยงาน, แยกตามหลักสูตร, หรือแยกเป็นปีงบประมาณ ฯลฯ เพื่อนำเสนอผู้บริหาร
ระบบการจัดสวัสดิการพนักงาน
นำระบบ HRISมามาช่วยในการ รายงานประเภทของสวัสดิการต่างๆ ที่จัดให้กับพนักงาน ตลอดจนเงื่อนไขในการใช้สวัสดิการนั้นๆ แจ้งเตือนพนักงานให้ทราบว่า พนักงานคนใดได้ใช้สวัสดิการใดเกินกว่าที่กำหนดแล้ว ในกรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล สามารถที่จะนำมาวิเคราะห์ถึงโรค หรืออาการที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับพนักงาน เพื่อวางแผนป้องกันได้ สรุปค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการแต่ละปี เพื่อนำไปวางแผนงบประมาณปีต่อไป