วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2551

วิธีเสียบปลั๊ก Notebook‏ ที่ถูกต้อง

เรื่องนี้เป็นทิปสั้นๆ แต่..ทิปสั้นๆ นี้ ผมเชื่อว่ามีใครหลายยคนที่ไม่เคยรู้มาก่อน ประมาณว่า จริงเหรอ? ใช่เหรอ?
ในช่วงแรกๆ ที่ผมใช้โน้ตบุ๊กก็อาการเดียวกับหลายๆ ท่าน เวลาจะเสียบปลั๊กก็เสียบตัวอะแดปเตอร์เข้ากับตัวเครื่องก่อน (จริงๆ มันน่าจะถูกนะ) แล้วก็เอาปลั๊กอีกด้านไปเสียบกับเต้ารับของที่บ้าน หรือที่ทำงาน โดยหลักความเป็นจริงแล้ว มันจะควรจะทำแบบนี้ใช่มั้ย?
คิดว่าหลายคนคิดเหมือนผม ปัญหาที่ผมเจอเมื่อทำแบบนี้กับโน้ตบุ๊กแทบทุกรุ่นที่ผ่านมา ก็คือมันมีไฟแลปออกมาจากตัวปลั๊ก เหมือนเกิดการสปาร์คขึ้น เสียบกี่ครั้งก็เกิดอาการแบบนี้ จนพาลคิดไปว่าพวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กมันไม่ค่อยดีมั้ง ผมก็หาวิธีแก้ไขบ้าง
เพื่อนหลายคนใช้วิธีเด็ดกว่านี้ครับ คือซื้อปลั๊กที่มีสวิทซ์เปิดปิดมาเลย วิธีการที่เขาทำก็คือ เสียบปลั๊กทุกๆ อย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเปิดสวิทซ์ที่ปลั๊ก เอ้ออ.. ไอเดียดีเนาะว่ามั้ย แต่จนแล้วจนรอด ผมเอ๊ะใจขึ้นมา เลยเปิดคู่มือโน้ตบุ๊กที่ผมเพิ่งได้มาใหม่ดู นั่งอ่านสักพัก ก็ถึง บ้างอ้อ จนได้ว่า สิ่งที่เราทำมานั้น ไม่ถูกต้องเลยครับ
มิน่า เสียบยี่ห้อไหน ก็ไฟแลบตะแลบแป๊บหมด.. พาลเอาใจหายว่าไฟจะช็อตได้
ต่อไปนี้ตั้งใจอ่านให้ดีดีนะครับในคู่มือเขาบอกไว้ชัดเจนเลยครับว่า วิธีการเสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊ก ที่ถูกต้องก็คือ ให้เราเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับที่บ้านหรือที่ทำงานก่อนครับ จากนั้นค่อยเอาปลายอีกด้านที่เหลือมาเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊ก อันนี้คือวิธีที่ถูกต้อง
ผมเลยลองดูซะเลยครับ ปรากฏว่าอาการไฟแลบหรืออาการสปาร์คนั้นไม่มีเกิดขึ้นเลย โอ้! นี่แหละหนาาา..นิสัยไม่ชอบอ่านคู่มือ หลังจากนั้นมาผมก็พยายามแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนที่เกิดอาการนี้ทั้งหมด ทุกรายแฮปปี้ดีแทคมากๆ ผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบครับ ใครที่ทราบแล้วก็ฝากบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะครับ จะได้เสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ได้ถูกต้องเสียที ใครใช้โน้ตบุ๊กอยู่ตอนนี้จะลองทำดูก็ได้นะครับ
ขอเพิ่มเติมด้วยว่า ใช้วิธีเดียวกันนี้กับ ทั้งมือถือ และ PDA ด้วย

Finalle update

สายลมย่อมพัดผ่าน วันวานย่อมเปลี่ยนผัน แต่ใจฉันจะยังคงเดิม
ในที่สุดก็ก้าวมากันจนถึงบทสุดท้ายแล้วสินะครับ ในที่สุดบลอคนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้ล่ำลาผู้ชม
ณ จุดนี้ผมต้องขอแสดงความขอบคุณแก่ทุกท่านที่ได้ผ่านเข้ามายังบลอดของทั้งโดยที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านจริงๆครับ สุดท้ายนี้ก่อนที่จะล่ำลากันไป ผมจะขออัพเดทบลอคเพื่อเป็นการทิ้งท้าย
เอากันให้แปลกใจกันไปข้างนึงขอให้ทุกท่านได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงก่อนล่ำลาของบลอคของผมนะครับ
ขอบคุณมากครับ

วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2551

special event! luckypost lucky seven

ผมขอจัดevent พิเศษ เนื่องในโอกาสที่บลอคของผมได้สมาชิกคนแรกครับ ขอให้ท่านผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมบลอคของผมทุกท่านช่วยกันลงความเห็นกันที่บทความนี้นะครับ ผู้โชคดี 7 ท่าน จะถูกเลือกขึ้นมาโดยสุ่ม(ในกรณีที่มีโพสเข้ามาไม่ถึง 7 ท่านจะได้รับรางวัลทุกท่านครับ)
กติกา
1. โพสไว้ที่บทความนี้เท่านั้นนะครับ(ถ้าไปโพสที่อื่นผมจะหาไม่เจอ)
2. กรุณาโพสชื่อกับนามสกุลของท่านเองแถมไว้ด้วยนะครับ(ถ้าเป็นไปได้เขียนอย่างอื่นแถมๆมาด้วยก้ได้ครับ)

ประกาศผล ท้ายชั่วโมงอาจารย์พีรพร วันที่ 20 เมษายน 2551
ขอบคุณครับ

ฉลองเนื่องในโอกาสได้สมาชิกคนแรก

สำเร็จแล้วครับ ในที่สุดบลอคของผมก็ได้สมาชิกใหม่แล้วครับ ภูมิใจเสนอจริงๆครับ
คุณ พรกมล ธาราทรัพย์ (เนื่องจากผมไม่ทราบคำนำหน้า ชื่อ นะครับผมเลยลงให้ว่าคุณไปก่อน)
สำหรับโอกาสนี้ ผมจึงขอจัดเป็น event พิเศษเลยนะครับ สำหรับผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่จัดไว้ผู้โชคดี 7 ท่าน(ไม่นับท่านอาจารย์)
ผมมีของเล็กๆน้อยๆมอบให้เป็นรางวัลครับ(ขอย้ำของรางวัลนั้นเล็กๆน้อยๆจริงๆครับ)

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2551

13 พิชัยยุทธ์พิชิตข้อสอบ

ท่านอาจจะลำบากใจทำไงดีสอบไม่เคยผ่าน โพย(อุปกรณ์โกงข้อสอบ เช่น กระดาษจดข้อความ)ที่ใช้อาจารย์จับได้ทุกที คะแนนก็ใกล้ศูนย์อยู่แล้ว ถ้าสอบตกต้องเรียนซ้ำ ค่าเทอมก็ขูดรีดพร้อมด้วยเตารีดและคันไถ ใครรู้ก็อับอาย เพื่อนโห่ฮา อาจารย์ติเตียน คนเขียนบลอคแอบนินทา อัปโยคทั้งวงศ์ตระกูล มันคือความเครียด เครียด เครียด อ้ากกกกกกกกกกกกกกก!! แต่ปัญหาของท่านจะลดลงเมื่อท่านพบบทความนี้...เป็นเคล็ดลับของการทำข้อสอบให้สำริดผล ซึ่งแบ่งได้ดังต่อไปนี้ เป็น 13 วิธีการโกง
1.กลยุทธ์คัมภีร์หนังมนุษย์ เป็นวิธีง่ายๆขั้นพื้นฐาน แต่ได้ผลดี เพียงท่านใช้ปากกาขีดเขียนบนเนื้อหนังของท่าน โดยขอแนะนำ ง่ามมือ บริเวณใต้ร่มผ้า ซึ่งสามารถพรางสายตาอาจารย์ได้พอสมควร ข้อแนะนำ วิธีการดังกล่าว อาจจะมีปัญหาถ้าท่านนั่งสอบใต้แอร์ ซึ่งจะทำให้ร้อนและเหงื่อออก โพยที่ท่านใช้จะเริ่มเลือนลางจากเหงื่อ ข้อแนะนำที่โคนขา เพราะไม่มีอาจารย์คนไหนกล้ามาตรวจดูตรงนั้น

2. กลยุทธ์สลับร่าง สร้างรัก เป็นชื่อหนังเอเชียของช่อง7 สมัยก่อนที่เคยมาฉายทีหนึ่ง วิธีนี้จะต้องอาศัยคนอย่างน้อย 2 คน เพียงแค่ทำข้อสอบตกบนพื้น แล้วช่วยกันก้มเก็บทั้งสองคน แล้วใช้จังหวะนี้สลับข้อสอบเป็นอัน แล้วค่อยหาจังหวะสลับคืน ข้อแนะนำ ถ้าผู้ร่วมขบวนการเป็นชายหญิง 2 คน แนะนำให้ฝ่ายชายเก็บ เพื่อแสดงความมีน้ำใจแก่ฝ่ายชายหญิง ซึ่งอาจจะลดข้อสงสัยแก่อาจารย์คุมสอบได้ ผู้ร่วมขบวนการต้องมีลายมือคล้ายๆกัน เพื่ออ้างว่าเห็นลายมือคล้ายๆกัน นึกว่าของตัวเอง

3.กลยุทธ์รหัสมอส การใช้คำพูดหันหน้าหันหลังอาจจะอันตรายเกินไปสำหรับบางสถานกาณ์ ให้ใช้รหัสมอสแทน โดยรหัสมอส หมายถึง การเคาะเพื่อให้สัญญาณ เช่น กระทืบเท้า เคาะโต๊ะ ขากสเลด เป็นต้น โดยให้ผู้ต้องการลอกส่งรหัสมอสให้กับผู้ร่วมขบวนการ แล้วให้ผู้ร่วมขบวนการตอบกลับมาด้วยรหัสมอสเช่นกัน คำแนะนำ จะใช้ได้ดีในแบบกาเลือกเท่านั้น ถ้าแบบบรรยายหรือวิธีทำ อาจจะต้องใช้การส่งคำตอบนานเกินไปจนเป็นที่สังเกตได้ ควรนัดแนะการส่งรหัสกันให้ดี เพราะการให้สัญญาณขาดหรือเกินจะทำให้ผิดพลาดในการตอบคำตอบได้

4.กลยุทธ์อโรคาพารอด การแกล้งป่วยจะช่วยพรางตาอาจารย์ได้ โดยอาการปวดหัว ให้ท่านกุมศรีษะ การกุมศรีษะด้วยมือจะพรางตาอาจารย์คุมสอบ ทำให้อาจารย์ไม่รู้ว่าเด็กจะรับโพยทางไหน หรือดูยากขึ้น ทำให้โอกาสลอกข้อสอบมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น

5.กลยุทธ์ยุทธการหัวเห็ด ผมเป็นสิ่งสำคัญต่อบุคลิกภาพของคนเรา โดยประโยชน์นอกจากนี้คือ พรางตาเช่นเดียวกับกลยุทธ์อโรคาพารอด เพียงใช้ผมของท่านที่มีอยู่มากำบังใบหน้า จนมิดจะทำให้อาจารย์คุมสอบจับจดไม่ถูกว่าท่านกำลังลอกโพยจากตำแหน่งไหนหรือ จับได้ยากขึ้น คำแนะนำ ใช้กับนักศึกษาชายไม่ได้เพราะผมยาวไม่พอ

6.กลยุทธ์เรดาห์ เสียงระหว่างการส่งโพยกันและกัน และเสียงคำพูดหลังจากสอบเสร็จจะสำคัญมาก แต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ถ้าท่านไม่ได้ยิน ให้ท่านกำมือมีช่องว่างเป็นรูปวงกลมไปทัดที่ใบหู มันจะช่วยเพิ่มความสามารถการได้ยินได้ดีขึ้น คำแนะนำ วิธีนี้สามารถใช้ดักฟังการส่งโพยของผู้อื่นได้

7.กลยุทธ์One For All แนะนำให้ใครคนหนึ่งที่ร่วมขบวนการหรือไม่ขบวนการก็ได้เตรียมส่งสัญญาณ ถ้าอาจารย์เข้ามาอยู่ในรัศมี คำแนะนำ ใช้ได้ต่อเมื่ออาจารย์คุมสอบกลับมาจากทำธุระ

8.กลยุทธ์โห่ร้องตะวันออก โจมตีตะวันตก กลยุทธ์นี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ผลดีทีเดียวในสงครามจริง โดยวิธีการนี้ผู้ร่วมขบวนการควรอยู่คนละฟากกัน ให้ผู้ร่วมขบวนการทำอาการให้เกิดเสียงดังประหนึ่งคุ้มคลั่งจนอาจารย์คุมสอบต้องหันมาสนใจ ระหว่างที่อาจารย์กำลังสนใจอยู่ ให้ผู้ร่วมขบวนการที่เหลือใช้โพยอย่างรวดเร็ว คำแนะนำ ผู้ร่วมขบวนการจะต้องให้สัญญาณให้ถูกจังหวะในใช้กลยุทธ์นี้

9. กลยุทธ์SMS ข้อความสื่อรัก ใช้ได้ดีพอสมควรโดยให้ผู้ร่วมขบวนการ มีโทรศัพท์มือถือติดตัวอยู่ แล้วให้ส่งข้อความ(โพย)สื่อสารกัน คำแนะนำ ควรติดตั้งเป็นระบบสั่นก่อน ควรฝึกความสามารถในการพิมพ์ให้เร็ว เพราะการก้มนานๆจะเป็นจุดสนใจจนท่านอาจารย์อาจจะสงสัยว่าท่านดูคลิปโป้ผ่านมือถือได้

10. กลยุทธ์ชักธงรบ การชักธงในสนามสงครามหมายถึงการสั่งโจมตี โดยธงจะต้องมีความสูงพอสมควร เพื่อที่ให้ทหารทั้งหมดเห็น โดยให้ผู้ร่วมขบวนการยกข้อสอบขึ้นมาอ่านให้ลอยเหนือโต๊ะจนเหนือศรีษะทำมุม ฉากกับโต๊ะ ผู้ร่วมขบวนการที่เหลือจะสามารถมองข้ามไหล่มาอ่านคำตอบในใบข้อสอบได้ คำแนะนำ ลายมือของคนเขียนจะต้องใหญ่พอสมควรและอ่านออกง่าย

11. กลยุทธ์ชัยภูมิดี มีชัยไปกว่าครึ่ง การมีตำแหน่งที่ดีของห้องจะทำให้เราลอกได้สะดวกและใช้กลยุทธ์อื่นได้อย่างดีขึ้นด้วย เช่น อยู่กลางห้อง จะสามารถลอกได้จากหลายทิศทาง หลายตัวเลือก หลายคน อยู่ติดเสา จะสามารถส่งโพยให้คนอื่นๆได้โดยขีดเขียนบนเสา ฯลฯ คำแนะนำ ควรศึกษาตำแหน่งทำเลที่ได้มาอย่างดี และนำมาใช้ประโยชน์อย่างให้ดีที่สุด

12. กลยุทธ์ยิ่งใกล้เหมือนยิ่งไกล ในการสอบปลายภาคนักเรียนบางคนโชคร้ายต้องไปนั่งหน้า ซึ่งทำให้เป็นที่รู้สึกว่าจะถูกจับตามองโดยง่ายจากอาจารย์ แต่ที่จริงแล้ว อาจารย์บางท่านจะไม่ค่อยดู เพราะคิดว่าอยู่ใกล้ขนาดนี้คงไม่มีใครกล้าโกงข้อสอบ การนั่งหน้าการโกงข้อสอบจะต้องใช้วิธีส่งคำพูดไม่ได้ จะเป็นที่สังเกตมากไป แต่ใช้ข้อความเขียนในกระดาษทดที่อาจารย์แจกมา แล้วมาตั้งตรงมุมอับจากสายตาอาจารย์พร้อมถามหรือตอบข้อสอบจากผู้ร่วมขบวนการ คำแนะนำ ถ้าอยู่ติดกับโต๊ะอาจารย์จะโกงยากมาก ดังนั้นการใช้วิธีนี้ต้องให้อาจารย์ลุกไปก่อนแล้วค่อยใช้ ควรใช้กลยุทธ์ “รหัสมอส” ควบคู่กับกลยุทธ์นี้

13. กลยุทธ์เผาถ่านก่อนหน้าฝน เป็นสุภาษิตจีนสุภาษิตหนึ่งเพราะในหน้าฝนถ่านจะแพง ชาวจีนจึงมีการเตรียมการเผาถ่าน เตรียมไว้ใช้ในหน้าฝน ให้ผู้ปฏิบัติเตรียมการโกงก่อนวันจรืง โดยให้จดจำที่นั่งตนเองไว้แล้วหาโพยไปซ่อนหรือแปะไว้ที่โต๊ะ คำแนะนำ การลงน้ำยาลบคำผิดที่ขาโต๊ะหรือเก้าอี้จะไม่ค่อยเป็นที่สังเกต การเขียนโพยบนโต๊ะต้องใช้ปากกาที่สีกลืนกันไปกับสีโต๊ะ เพื่อพรางตาอาจารย์คุมสอบ การแปะโพยกระดาษต้องแปะ ในระดับที่อาจารย์เดินมาแล้วไม่เห็น หัวใจของการโกงข้อสอบ คือใช้กลยุทธ์ทุกอย่างให้สอดคล้องและรวดเร็ว ให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นๆ อย่าคิดว่า อาจารย์จะไม่รู้เชียว

วิธีทำลายหลักฐานที่จะแนะนำให้เพื่อนๆ คือ
1. กินเข้าไป (กินมันเข้าไปเลยเนี่ยหละ)
2. เผาทิ้ง (อันนี้ ถ้าสามารถจริงๆ ให้เพ่งสมาธิไปทีกระดาษจนกว่ามันจะลุกไหม้ครับ)
3. ขยำแล้วปาใส่หัวเพื่อนเอาให้ดีนะ จุ่มน้ำลายฉ่ำๆด้วย (จะไม่มีคนสนใจ แต่อาจถูกด่าเล็กน้อย)
4. ปาออกนอกหน้าต่าง
5. ย่อยสลายเป็นกระดาษรีไซเคิล

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2551

ทำไมในต่างประเทศถึงเรียกตำรวจว่า COP

ทุกคนคงเคยได้ยิน ตำรวจเหล็กชื่อดัง โรโบคอบ (ROBOCOP) และทุกคน คงเดาออกว่า ROBO มาจาก ROBOT ที่แปลว่าหุ่นยนต์ แต่คำว่า COP นั้น ทราบหรือเปล่าครับว่า เขาใช้เป็นกึ่งๆ แสลงเรียกตำรวจของฝรั่ง เพราะฉะนั้นโรโบคอบ ก็แปลตรงตัวง่ายๆ ว่าตำรวจหุ่นยนต์นั้นเอง แต่ทราบกันอีกหรือเปล่าครับ คำว่า COP มีที่มาอย่างไร
คำว่า COP ย่อมาจาก Constable of Patrol ในภาษาอังกฤษ แปลได้ว่า ตำรวจลาดตระเวน ซึ่งในสมัยก่อน ในประเทศอังกฤษ ใช้คำว่า COP ในการเรียกตำรวจเฉพาะหน้าที่หนึ่งของเขานั่นเอง ก่อนที่คำนี้จะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ทำให้ ตำรวจทุกๆหน้าที่ ถูกเรียกย่อๆว่า COP ในที่สุด

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2551

ขอตอบควิซอาจารย์ครับ

เรียนท่านอาจารย์ เพื่อท่านจะแวะผ่านมาชม เนื่องจาก ช่วงอาทิตย์ที่แล้วผมต้องออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่และพอกลับมายังเป็นไข้ซ้ำอีกเลยยังไม่ได้เข้าไปดูที่บลอคของอาจารย์ แต่ก็ได้พบว่าสายไปแล้ว แต่ก็ยังอยากที่จะตอบ ส่วนท่านอาจารย์จะให้คะแนนรึไม่ก็ไม่เป็นไรครับ

ในกรณีที่บริษัทของข้าพเจ้ามีสาขาอยู่ทั่วทุกภาค มีพนักงานมากกว่า 10,000 คน ข้าพเจ้าสามารถนำระบบ HRISมาประยุกต์ใช้ในบริษัทของข้าพเจ้าโดยนำระบบสารสนเทศทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Information System) มาเป็นเครื่องมือในการนำข้อมูลพนักงานมาวิเคราะห์ วางแผนและการตัดสินใจ ในเรื่องต่างๆโดยนำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องต่างๆดังนี้
1. ระบบการสรรหา และคัดเลือกพนักงาน
นำระบบ HRISมาใช้การจัดเก็บข้อมูลผู้สมัคร ทำให้ทราบสถานภาพและคุณสมบัติของผู้สมัคร ใช้ในการบันทึกข้อมูลการจ้างงาน เก็บประวัติส่วนตัวที่จะใช้ในการคัดเลือกต่อไป เช่น ชื่อ ที่อยู่ สถานภาพ ฯลฯ เนื่องจากผู้สมัครแต่ละคนยังไม่ผ่านการคัคเลือกเข้าเป็นพนักงานของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามเมื่อผ่านกระบวนการคัดเลือกแล้ว เช่น การทดสอบหรือการสัมภาษณ์ ระบบจะสามารถโอนข้อมูลพนักงานนั้นๆ เข้าสู่ระบบกลางได้โดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องทำการบันทึกข้อมูลใหม่

2. ระบบทะเบียนประวัติ
นำระบบ HRISมามาช่วยในการจัดเก็บและบริหารข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับประวัติของพนักงาน, ตำแหน่งงาน, หน่วยงานสังกัด ฯลฯ ในทุกสาขาของบริษัท โดยระบบHRISนี้ ยังช่วยในการเชื่อมโยงการทำงานของระบบทะเบียนประวัติและระบบอื่นๆ เข้าด้วยกัน เนื่องจากเป็นการแบ่งการใช้ฐานข้อมูล เช่น ใช้ร่วมกับระบบการจ่ายค่าจ้างและเงินเดือนเพื่อจ่ายค่าตอบแทน, ใช้ร่วมกับระบบการประเมินผลงานและการเลื่อนขั้นตำแหน่งเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง
3. ระบบบันทึกเวลาทำงาน
นำระบบ HRISมามาช่วยในการบันทึกข้อมูลเวลาการทำงานทำให้- สามารถกำหนดแผนการทำงานของพนักงานได้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นพนักงานรายเดือน รายวัน หรือพนักงานที่ต้องมีการเข้ากะที่แตกต่างกัน ในแต่ละสาขา- สามารถตรวจสอบเวลาการทำงานที่ข้ามวันได้ เช่น การเข้าทำงานกะในคืนวันหนึ่ง และไปเลิกงานในตอนเช้าของอีกวันหนึ่ง- รายงานข้อผิดพลาดต่างๆได้อย่างหลากหลาย เช่น พนักงานไม่รูดบัตรเข้าหรือออก รายงานมาสาย หรือเลิกงานก่อนเวลา- สามารถแสดงสถิติการหยุดงาน การป่วย ลา ขาด สาย ของพนักงานแต่ละคน หรือเป็นหน่วยงาน ในแต่ละสาขา และในแต่ละช่วงเวลา
4. ระบบการจ่ายค่าจ้างและเงินเดือน
นำระบบ HRISมามาช่วยในการจัดการรายได้ทั้งที่มีลักษณะคงที่และไม่คงที่ เช่น เงินประจำตำแหน่ง เงินค่าพาหนะที่จ่ายประจำ หรือค่าตอบแทนที่มีลักษณะคงที่ตลอดปี
การจัดการของระบบHRISในลักษณะของข้อมูลที่มีลักษณะคงที่ เช่นข้อมูลหลักเกณฑ์ในการคำนวณการจ่ายเงินเดือน ได้แก่ จำนวนวันต่อเดือนที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณ โครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและค่าลดหย่อน โครงสร้างอัตราเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อัตราเงินประกันสังคม หลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสจ่ายเป็นจำนวนเท่าของเงินเดือนหรือไม่อย่างไร หรือเป็นการจ่ายในรูปเงินสดเมื่อถึงวันจ่ายโบนัส (Cash Basis) หรือเป็นการแบ่งจ่ายตามสัดส่วน ตามเวลาซึ่งได้คำนวณและกันเงินไว้ล่วงหน้า (Accrual Basis) อย่างไรก็ดีการจ่ายเงินจะมีความสัมพันธ์กับระบบบัญชีของบริษัท การจัดการของระบบHRISในลักษณะของข้อมูลที่มีลักษณะไม่คงที่ เช่น การปรับเงินเดือน การตกเบิกเงินเดือน (Retroactive Adjustment) ค่าพาหนะที่ไม่ได้จ่ายประจำ ค่าเบี้ยเลี้ยงเงิน (เดือน) เบิกย้อนหลัง เบิกล่วงหน้า ค่ากะ ค่าปฏิบัติงานล่วงเวลา ค่าพาหนะ ค่าคอมมิชชัน เงินรางวัลพิเศษ รายได้อื่นๆ
5. ระบบการประเมินผลงานและการเลื่อนขั้นตำแหน่ง
นำระบบ HRISมามาช่วยในการประเมินผลงานตามกลุ่มของพนักงานทุก ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องหัวข้อที่พึงประเมิน เงื่อนไข และการให้คะแนน หลังจากที่ทำการประเมินจนได้ผลคะแนนออกมาแล้ว ก็จะมีรูปแบบจำลองวิธีการปรับเงินเดือน หรือการจ่ายเงินโบนัส เพื่อควบคุมให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนด หรือนำผลที่ได้จากแบบจำลองต่างๆ เหล่านั้นมาเปรียบเทียบกันก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับเงินเดือนหรือจ่ายโบนัส นอกจากนี้ ยังจะต้องมีการเก็บบันทึกประวัติการประเมินผลงาน, ประวัติการเลื่อนตำแหน่ง, การทำความดีหรือถูกลงโทษ, ประวัติการปรับเงินเดือน หรือการจ่ายโบนัสไว้ทุกครั้งโดยอัตโนมัติ เพื่อสามารถเรียกดูประวัติการประเมินผลย้อนหลังได้เมื่อต้องการ
6. ระบบการพัฒนาและฝึกอบรม
มีการนำระบบ HRISมามาช่วยในด้านต่างๆดังต่อไปนี้
- จัดทำแผนการฝึกอบรมของพนักงานแต่ละคน หรือแต่ละตำแหน่งงาน พร้อมทั้งประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้สามารถจัดเตรียมงบประมาณได้ เก็บประวัติการฝึกอบรมของบุคลากรแต่ละคน เพื่อใช้ตรวจสอบว่า ได้ผ่านการฝึกอบรมในเรื่องใดมาบ้างแล้ว และยังมีหลักสูตรใดที่ยังไม่ได้รับการฝึกอบรมบันทึกผลการประเมินการฝึกอบรมในแต่ละหลักสูตร ทั้งในเรื่องวิทยากร, ผลที่ได้รับ, เนื้อหา, ค่าใช้จ่าย ฯลฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์สำหรับการวางแผนฝึกอบรมในครั้งต่อๆไป รายงานสรุปค่าใช้จ่ายในการจัดฝึกอบรม ตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น แยกเป็นแต่ละหน่วยงาน, แยกตามหลักสูตร, หรือแยกเป็นปีงบประมาณ ฯลฯ เพื่อนำเสนอผู้บริหาร
ระบบการจัดสวัสดิการพนักงาน
นำระบบ HRISมามาช่วยในการ รายงานประเภทของสวัสดิการต่างๆ ที่จัดให้กับพนักงาน ตลอดจนเงื่อนไขในการใช้สวัสดิการนั้นๆ แจ้งเตือนพนักงานให้ทราบว่า พนักงานคนใดได้ใช้สวัสดิการใดเกินกว่าที่กำหนดแล้ว ในกรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล สามารถที่จะนำมาวิเคราะห์ถึงโรค หรืออาการที่เกิดขึ้นบ่อยๆ กับพนักงาน เพื่อวางแผนป้องกันได้ สรุปค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการแต่ละปี เพื่อนำไปวางแผนงบประมาณปีต่อไป